10 December 2013

ชีวิตเด็กแบรนด์เนม ตอน ปีเตอร์ รุก ล่ำ กลิ่นสัปปะรด

พี่ปีเตอร์ คือหนุ่มเหนือในวัย 30 ต้นๆ เริ่มงานในตำแหน่งเดียวกับ บ.ก คือพนักงานขายผู้มีความอาวุโสน้อย Junior Sale ASSociate. แน่นอน บ.ก ยังจำวันแรกที่เจอกับปีเตอร์ได้เช่นเดียวกับที่เจอเคทที่

แว้บแรกที่ บ.ก เห็นปีเตอร์ "อีนี่เป็นตุ๊ด" บ.ก นึกในใจ หลังจากเรดาร์จับสัญญาณกระเทยของ บ.ก ทำงาน ซึ่งแน่นอนมันถูกต้องและแม่นยำ แต่ปีเตอร์แอ๊บแมนสุดชีวิตในเวลานั้นเพื่อรักษาภาพพจน์ ปีเตอร์เป็นคนหุ่นดี ด้วยโหมเล่นฟิตเนสมานานหลายปีจนล่ำได้ที่ และก็ So Proud ภาคภูมิใจในความอ่อนเยาว์ของใบหน้าตัวเอง ชนิดเอาเป็นเอาตาย
"นี่ เพื่อนรุ่นเดียวกับพี่นะ หน้ามันแก่กันไปหมดละ หน้าพี่นะอ่อนกว่าพวกมันเยอะ"
"ชอบมีคนมาถามพี่ว่ารักษาผิวหน้ายังไงให้ออกอมชมพูแบบนี้ จริงๆก็ไม่มีอะไรมากหรอกนะ"
"นี่ เอาครีมรกแกะไปใช้ไหมดีมากเลยนะ เพื่อนพี่นำเข้ามาจากนิวซีแลนด์" มุกนี้เริ่มมาละจะขายของ
บ.ก ไม่เถียง เพราะด้วยปีเตอร์เป็นคนเหนือซึ่งสภาพผิวดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ที่ว่าหน้าขาวใสอมชมพูนั้นมันน่าจะย้อนไปเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว สมัยปีเตอร์ถ่ายรูปสตูดิโอในชุดเจ้าชายเมืองเหนือเต็มยศ ซึ่งเอามาอวดเพื่อนๆที่ทำงาน
"โฮพี่ปีเตอร์ หล่อนะนี่" ให้ตายเถอะ บ.ก พูดด้วยความสัจจริง
"แกดูหน้าฉันซิ ใสจะตาย ตอนนั้นพี่อายุ 25 กำลังเอาะๆ" ปีเตอร์พูดอย่างภาคภูมิมีรอยยิ้มที่มุมปาก บ่อยครั้งที่ บ.ก และ เคทที่จะหันไปมองหน้ากันแล้วทำท่าแหวะ!
สิ่งหนึ่งที่ บ.ก สัมผัสได้จากปีเตอร์คือการเป็นคนมองโลกในแง่ดีซึ่งมีส่วนคล้ายกันกับเคทที่ การเป็นคนเปิดเผยและตลก และเหนือสิ่งอื่นใดคือการทุ่มเทในการทำงานของปีเตอร์ที่บางครั้ง บ.ก ยังทึ่งในความสามารถของเขา ช่วงเริ่มแรกของการทำงาน บ.ก และปีเตอร์ประสบปัญหาเดียวกันคือเรื่องยอดขาย แต่ปีเตอร์สามารถเรียนรู้งานได้อย่างรวดเร็วและก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในพนักงานขายที่ทำยอด แน่นอนออร่าซึ่งเป็นผู้กุมตำแหน่งท๊อปเซล์ เริ่มเกิดอาการบัลลังก์สั่นครืน หลายคร้งที่สองคนนี้มีปากเสียงกันด้วยสไตล์การทำงานและความคิดเห็นไม่ลงรอยกัน ซึ่งบ่อยครั้งเข้ามันกลายเป็นเรื่องปรกติที่เกิดขึ้นในร้าน แต่ก็บ่อยครั้งที่ออร่าออกเงินกู้ให้ปีเตอร์ ซึ่ง บ.ก ก็งงกับความสัมพันธ์ของสองคนนี้
ปีเตอร์กับเคทที่บ้านอยู่ใกล้กัน และปีเตอร์ก็ขับรถมาทำงานซึ่งบางครั้งเคทที่ก็อาศัยติดรถทั้งไปและกลับจากที่ทำงาน แต่รถของปีเตอร์เสียเป็นประจำด้วยว่าเก่าและใกล้พังเต็มที
"เคท รถเสีย ไม่ได้เอามาวันนี้กลับรถเมล์กันเถอะ" ปีเตอร์หาเพื่อนกลับบ้าน หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับเป็นชุดปรกติ เสื้อยืด กางเกงขาสั่น รองเท้าแตะ นี่คือชุดมาทำงานของปีเตอร์ ระหว่างทางเดินไปป้ายรถเมล์ปีเตอร์ก็จะซื้อของกินดะไล่ไปตามทางทั้งผลไม้ ขนม อาหารกล่อง ด้วยว่ามีคนรออยู่ที่บ้าน ระหว่างที่อยู่บนรถเมล์ก็เม้าท์มอยกันไปตามประสา แต่ในระหว่าการสนทนาที่ออกรส เคทที่ก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆบางอย่าง ออกแนวเฟรสกลิ่นฟรุตตี้ผลไม้ เมื่อแรกเคลิ้มหอมแต่กลิ่นเริ่มแรงและฉุนแสบจมูกเมื่อสายลมปะทะยามรถเมล์วิ่ง
"อีปีเตอร์ แกได้กลิ่นอะไรไหม กลิ่นหอมๆเหมือนกลิ่นสัปปะรด" ทั้งสองหันซ้ายหันขวามองหาต้นต่อที่มาของกลิ่นเฟรชชี่แสบจมูก ปีเตอร์รู้ดีว่ากลิ่นนี้คือกลิ่นอะไร จะว่าไปไม่ต้องมองหาให้เมื่อย แต่ก็ลำบากใจจะบอกเคทที่
"กลิ่นสัปปะรดที่ไหนวะ" เคทที่เริ่มมีน้ำโห ปีเตอร์เห็นท่าไม่ดีสงสัยต้องบอกให้เพื่อนหายข้องใจ
"กลิ่นตีนกูเอง!"

พี่เคทที่ เวรกรรมมีจริง ตดให้ บ.ก ดมแถมด่าว่ามาดมตดฉันทำไม เวรกรรมมันสนองด้วยการให้พี่เคทที่ต้องดมกลิ่นตีนสัปปะรดของพี่ปีเตอร์ด้วยประการฉะนี้นี่เอง 555

ป.ล ยังไม่ได้ขออนุญาติฮี แต่คิดว่าฮีคงแอพพรูฟ

No comments:

Post a Comment