22 December 2013

ชีวิตเด็กแบรนด์เนม ตอน ปีเตอร์ ชีวิตรักซุปตาร์

ปีเตอร์มักจะมาบ่นเรื่องชีวิตความรักให้ บ.ก ฟังอยู่บ่อยๆ ซึ่ง บ.ก เองก็ได้แต่ฟังและให้คำแนะนำได้บ้างไม่ได้บ้าง ด้วยอ่อนอาวุโสและประสบการณ์น้อยกว่า และชีวิตรักของตัวเองก็ใช่ว่าจะดีเด่นสวยหรูอะไร ปีเตอร์เคยเม้าท์ให้ฟังสมัยมีหนุ่มเกาหลีมาตกหลุมรักถึงขั้นพาไปอยู่เมืองนอกเมืองนา แดนกิมจิ ซาราเฮโย บีบีครีม ด้วยความที่ปีเตอร์เป็นคนล่ำ ผิวขาวอมชมพู และพูดจาไม่รู้เรื่องไม่ว่าจะเมาอยู่หรือสร่างเมาแล้ว อาจจะไปถูกตาต้องใจหนุ่มเกาหลีพบฮักกันทีดีเจ แดนสวรรค์ของชาวเรา

Akeybreakystyles Best Film Awards 2013 ประกาศผลรางวัลตามใจฉัน

Akeybreakystyles: Best Film Awards 2013

บ.ก เป็นคนชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจตั้งแต่เด็กๆ นอกเหนือจากความเพลิดเพลินแล้วยังได้ฝึกภาษาอังกฤษไปด้วยในตัว การดูหนังเปิดมุมมองและวิสัยทัศน์ให้กับ บ.ก มากมาย ได้มองเห็นโลกในอีกมุมมองหนึ่งที่เราไม่เคยพบเห็นในชีวิตประจำวัน แต่เมื่อเริ่มโตขึ้นการดูหนังของ บ.ก เริ่มหลากหลายและเลือกสรรค์มากขึ้น การดูหนังกลายเป็นศิลปะอย่างหนึ่งของ บ.ก ถ้าถามว่าไปเที่ยวดีเจกับไปดูหนัง ตอบว่าดูหนังโดยไม่ต้องคิดถึงแม้คู่เดทจะแซ่บแค่ไหนก็ตาม เพราะเราไปแซ่บกันในโรงหนังได้ รวบรวมหนังที่ดีที่สุดจากการเข้าฉายในเมืองไทยในปี 2556 ตัดสินด้วยมาตราฐานของ บ.ก เองโดยไม่แคร์สื่อ และนี่คือสุดยอดของหนังปี 2556 Akeybreakystyles Movie Awards 2013

BEST FILM 2013
The Hobbit: The Desolation of Smaug (เดอะฮอบบิท ดินแดนเปลี่ยวร้างของสม็อค)





ภาคต่อของไตรภาค The Hobbit ซึ่งทำได้ดีกว่าภาคแรก หนังมาพร้อมโปรดักชั่นที่อลังการ สวยงามและสมบูรณ์แบบและยังสนุกตั้งแต่ต้นจนจบ เนื้อเรื่องก็เข้มข้นสนุกไม่แพ้กับไตรภาคของ The Lord of The Ring หาข้อเสียและข้อติดไม่ได้จริงๆ ยอดเยี่ยมในทุกองค์ประกอบไล่ตั้งแต่ กำกับศิลป์ การถ่ายภาพ การตัดต่อ เทคนิคพิเศษ เพลงประกอบ การแต่งหน้าและเครื่องแต่งกาย ยอมเยี่ยมที่สุดของปีนี้คือเรื่องนี้ 

18 December 2013

Lady Gaga & Christina Aguilera - Do What U Want (Live The Voice)


บ.ก ไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม? มันสุดยอดมาก


17 December 2013

15 December 2013

ชีวิตเด็กแบรนด์เนม ตอน เคทที่ ชะนี แบบนี้ก็มีด้วย

หากวันไหนที่ออร่าหยุดไม่มาทำงาน มีแค่ บ.ก เคทที่ และปีเตอร์ วันนั้นมันคือสวรรค์ชัดๆ ร้านเป็นของเรา ฮ่า ฮ่า ฮ่า เราจะขายของกันอย่างสบายใจเฉิบ ไม่ต้องมาคอยระวังรังสีอัมหิต และยอดขายของวันนั้นจะดีผิดปรกติ อาจเป็นไปได้ว่าแรงกดดันและบรรยากาศในการทำงานในวันนั้นผ่อนคลาย ความเครียดลดลงทำให้เราทำงานได้ดีขึ้น แต่ต้องออกตัวก่อนถึงแม้ว่าพวกเราจะทำงานกันอย่างสบายจิตสบายใจแต่เราก็ยังคงรักษามาตราฐานการบริการของแบรนด์ไว้ไม่เปลี่ยนแปลง อาทิตย์ก่อนออร่ามาบ่นเปรยๆให้พวกเราฟังว่าอยู่ดีๆบัตรเครดิตก็มาชารจ์เงินเธอทั้งที่เธอไม่ได้ใช้ ชีโทรไปคุยแล้วตั้งหลายรอบแต่บัตรเครดิตก็ยืนยันว่าใช้จนชีเริ่มมีน้าโห

10 December 2013

มหกรรมของขวัญวัน Christmas ของ Rihanna

ชีวิตเด็กแบรนด์เนม ตอน ปีเตอร์ รุก ล่ำ กลิ่นสัปปะรด

พี่ปีเตอร์ คือหนุ่มเหนือในวัย 30 ต้นๆ เริ่มงานในตำแหน่งเดียวกับ บ.ก คือพนักงานขายผู้มีความอาวุโสน้อย Junior Sale ASSociate. แน่นอน บ.ก ยังจำวันแรกที่เจอกับปีเตอร์ได้เช่นเดียวกับที่เจอเคทที่

แว้บแรกที่ บ.ก เห็นปีเตอร์ "อีนี่เป็นตุ๊ด" บ.ก นึกในใจ หลังจากเรดาร์จับสัญญาณกระเทยของ บ.ก ทำงาน ซึ่งแน่นอนมันถูกต้องและแม่นยำ แต่ปีเตอร์แอ๊บแมนสุดชีวิตในเวลานั้นเพื่อรักษาภาพพจน์ ปีเตอร์เป็นคนหุ่นดี ด้วยโหมเล่นฟิตเนสมานานหลายปีจนล่ำได้ที่ และก็ So Proud ภาคภูมิใจในความอ่อนเยาว์ของใบหน้าตัวเอง ชนิดเอาเป็นเอาตาย
"นี่ เพื่อนรุ่นเดียวกับพี่นะ หน้ามันแก่กันไปหมดละ หน้าพี่นะอ่อนกว่าพวกมันเยอะ"
"ชอบมีคนมาถามพี่ว่ารักษาผิวหน้ายังไงให้ออกอมชมพูแบบนี้ จริงๆก็ไม่มีอะไรมากหรอกนะ"
"นี่ เอาครีมรกแกะไปใช้ไหมดีมากเลยนะ เพื่อนพี่นำเข้ามาจากนิวซีแลนด์" มุกนี้เริ่มมาละจะขายของ
บ.ก ไม่เถียง เพราะด้วยปีเตอร์เป็นคนเหนือซึ่งสภาพผิวดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ที่ว่าหน้าขาวใสอมชมพูนั้นมันน่าจะย้อนไปเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว สมัยปีเตอร์ถ่ายรูปสตูดิโอในชุดเจ้าชายเมืองเหนือเต็มยศ ซึ่งเอามาอวดเพื่อนๆที่ทำงาน
"โฮพี่ปีเตอร์ หล่อนะนี่" ให้ตายเถอะ บ.ก พูดด้วยความสัจจริง
"แกดูหน้าฉันซิ ใสจะตาย ตอนนั้นพี่อายุ 25 กำลังเอาะๆ" ปีเตอร์พูดอย่างภาคภูมิมีรอยยิ้มที่มุมปาก บ่อยครั้งที่ บ.ก และ เคทที่จะหันไปมองหน้ากันแล้วทำท่าแหวะ!
สิ่งหนึ่งที่ บ.ก สัมผัสได้จากปีเตอร์คือการเป็นคนมองโลกในแง่ดีซึ่งมีส่วนคล้ายกันกับเคทที่ การเป็นคนเปิดเผยและตลก และเหนือสิ่งอื่นใดคือการทุ่มเทในการทำงานของปีเตอร์ที่บางครั้ง บ.ก ยังทึ่งในความสามารถของเขา ช่วงเริ่มแรกของการทำงาน บ.ก และปีเตอร์ประสบปัญหาเดียวกันคือเรื่องยอดขาย แต่ปีเตอร์สามารถเรียนรู้งานได้อย่างรวดเร็วและก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในพนักงานขายที่ทำยอด แน่นอนออร่าซึ่งเป็นผู้กุมตำแหน่งท๊อปเซล์ เริ่มเกิดอาการบัลลังก์สั่นครืน หลายคร้งที่สองคนนี้มีปากเสียงกันด้วยสไตล์การทำงานและความคิดเห็นไม่ลงรอยกัน ซึ่งบ่อยครั้งเข้ามันกลายเป็นเรื่องปรกติที่เกิดขึ้นในร้าน แต่ก็บ่อยครั้งที่ออร่าออกเงินกู้ให้ปีเตอร์ ซึ่ง บ.ก ก็งงกับความสัมพันธ์ของสองคนนี้
ปีเตอร์กับเคทที่บ้านอยู่ใกล้กัน และปีเตอร์ก็ขับรถมาทำงานซึ่งบางครั้งเคทที่ก็อาศัยติดรถทั้งไปและกลับจากที่ทำงาน แต่รถของปีเตอร์เสียเป็นประจำด้วยว่าเก่าและใกล้พังเต็มที
"เคท รถเสีย ไม่ได้เอามาวันนี้กลับรถเมล์กันเถอะ" ปีเตอร์หาเพื่อนกลับบ้าน หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับเป็นชุดปรกติ เสื้อยืด กางเกงขาสั่น รองเท้าแตะ นี่คือชุดมาทำงานของปีเตอร์ ระหว่างทางเดินไปป้ายรถเมล์ปีเตอร์ก็จะซื้อของกินดะไล่ไปตามทางทั้งผลไม้ ขนม อาหารกล่อง ด้วยว่ามีคนรออยู่ที่บ้าน ระหว่างที่อยู่บนรถเมล์ก็เม้าท์มอยกันไปตามประสา แต่ในระหว่าการสนทนาที่ออกรส เคทที่ก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆบางอย่าง ออกแนวเฟรสกลิ่นฟรุตตี้ผลไม้ เมื่อแรกเคลิ้มหอมแต่กลิ่นเริ่มแรงและฉุนแสบจมูกเมื่อสายลมปะทะยามรถเมล์วิ่ง
"อีปีเตอร์ แกได้กลิ่นอะไรไหม กลิ่นหอมๆเหมือนกลิ่นสัปปะรด" ทั้งสองหันซ้ายหันขวามองหาต้นต่อที่มาของกลิ่นเฟรชชี่แสบจมูก ปีเตอร์รู้ดีว่ากลิ่นนี้คือกลิ่นอะไร จะว่าไปไม่ต้องมองหาให้เมื่อย แต่ก็ลำบากใจจะบอกเคทที่
"กลิ่นสัปปะรดที่ไหนวะ" เคทที่เริ่มมีน้ำโห ปีเตอร์เห็นท่าไม่ดีสงสัยต้องบอกให้เพื่อนหายข้องใจ
"กลิ่นตีนกูเอง!"

พี่เคทที่ เวรกรรมมีจริง ตดให้ บ.ก ดมแถมด่าว่ามาดมตดฉันทำไม เวรกรรมมันสนองด้วยการให้พี่เคทที่ต้องดมกลิ่นตีนสัปปะรดของพี่ปีเตอร์ด้วยประการฉะนี้นี่เอง 555

ป.ล ยังไม่ได้ขออนุญาติฮี แต่คิดว่าฮีคงแอพพรูฟ

JASON WU Pre-Fall 2014



06 December 2013

ชีวิตเด็กแบรนด์เนม ตอน เคทที่ ชะนีปลายหวีเหี่ยว

ชีวิตเด็ก(ขายของ)แบรนด์เนมนั้นก็เหมือนอาชีพอื่นๆที่ต้องมีเพื่อนร่วมงาน จะดีหรือจะร้ายแต่อย่างน้อยร้านเล็กๆร้านนี้ก็มีแสงสว่างและเสียงหัวเราะจากเธอเสมอ เธอชื่อเคท

บ.ก ยังจำวันแรกที่ได้เจอกับเคตในวันแทรน์นิ่งก่อนเริ่มงาน เคตแตกต่างกับออร่าราวขาวกับดำจะว่าไปก็ถูกเพราะว่าตัวชีก็ออกดำ ตัวเล็กๆ ผอมๆ โหนแก้มสูง หน้าตาคมคาย ชีแลดูคล้ายมักคลีผล แต่ดูมีสไตล์มากกว่า โดยปรกติการแทรน์นิ่งงาน หรือการปฐมนิเทศต่างๆเราต้องแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย แต่เคทใส่การเกงยีนส์สีดำขาดๆ และขาดๆ ทั่วทั้งหน้าเข่งไปยันน่อง  วันแรกก็ประทับใจในตัวเธอเสียแล้ว ในบรรดาเพื่อนร่วมงานทั้งหมด บ.ก สนิทกับเคทที่สุด ชีเป็นคนตลกๆเปิดเผย และบางทีเปิดเผยมากจนเกินไปในบางครั้ง
"พี่อยู่กับพี่สาว มีหลานห้าคน พี่เขยพี่เป็นเจ้าของโรงสี พี่สาวพี่ขับบีเอ็ม พี่เคยแต่งงานแล้ว โอ๊ยมันนิสัยไม่ได้เรื่อง ลูกชายพี่น่ารักมาก อาทิตย์หน้าไปดูหมอกัน" ที่ชีเปล่งวาจาออกมานี่ไม่มีใครถาม ชีพูดออกมาเองล้วนๆเป็นปืนกลได้ทั้งวัน ทำให้รู้จักชีวิตส่วนตัวของเคทในเกือบจะทุกองศา แต่จะว่าไปมันก็เป็นเสนห์อย่างหนึ่งที่เธอยอมเปิดใจเรื่องราวของเธอ ไม่เฉพาะแค่ บ.ก เอง ชีเป็นกับทุกคน ชีเข้ากับคนง่าย
การได้ฟังเคทเล่าเรื่องชีวิตที่ไม่ซ้ำหัวข้อกันในแต่ละวันนั้นช่างเพลิดเพลิน กลายเป็นไฮไลท์ในการทำงานแต่ละวันของ บ.ก เลยทีเดียว
"พี่เคท เดี๋ยวไปพักกินข้าวก่อนเลยนะ เสร็จแล้วเดี๋ยวค่อยพลัดกันไปกิน" บ.ก บอกเคทแต่ที่จริงหิวมาก
หลังจากเคทหายไปกินข้าวในห้องช่างซ่อมเสื้อผ้าครู่ใหญ่ ชีออกมาทำงานก็ถึงคราว บ.ก ไปกินข้าวบ้าง
พวกเราจะเอาอาหารไปเก็บไว้ในห้องช่าง กินข้าวไปด้วย เม้าท์ไปด้วยกับช่าง ห้องนี้กลายเป็นห้องสันทนาการของร้าน การทำงานที่ร้านนี้ทำให้ บ.ก กลายเป็นคนกินข้าวเร็ว เพราะต้องรีบออกมารับลูกค้า
เคทกำลังยืนพับเสื้อเชิ๊ตอยู่ตอนที่ บ.ก เดินออกมาจากห้องช่าง ระหว่างทางที่เดินไป บ.ก มีอาการคัดจมูก แต่ก็ยังเดินไปช่วยเคทพับเสื้อ แต่อาการคัดจมูกเริ่มรุนแรงขี้น แต่ บ.ก คิดว่าพี่เคทพึ่งจะกินข้าวมาสงสัยกลิ่นอาหารที่ชีกินหรือเปล่า
"อะพี่เคท อมลูกอมปะ" บ.ก ยื่นลูกอมให้ เพราะด้วยห่วงว่าพี่เคทจะปากเหม็นระหว่างรับลูกค้าได้ ชีรับไปอย่างอายๆ ทำตาปะหลับปะเหลือก แต่กลิ่นก็รุนแรงขึ้น
"กลิ่นอะไรอะพี่เคท" บ.ก ฟืดฟัดเอามือขยี้จมูก
"อ๋อ อืออ คือพี่ตดอะ" บ.ก ผงะและตะลึงในเวลาเดียวกัน ไม่อยากเชื่อว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ การได้ดมตดใครก็ไม่น่าพิศสมัยทั้งนั้นโดยเฉพาะตดชะนีหน้าไม่อาย
"เฮ้ยพี่!" บ.ก ทำหน้ารังเกียจ
"แล้วแกมาดมตดฉันทำไม อุตสาห์แอบมาตดคนเดียวละนะนี่" นี่คือคำพูดแก้ตัวของหล่อน และเราก็กลายเป็นเพื่อนรักกันมานับตั้งแต่ตดนั้น

ป.ล ปัจจุบันชีทำงานอยู่ร้านอัญมณีเลอค่า แต่งตัวเลียนแบบวิคตอเรีย แบคแคมพ์ และยังตั้งหน้าตั้งตาหาสามีต่างชาติต่อไป เรืองนี้ได้รับอนุญาติจากชีแล้ว

05 December 2013

ELLE MEN Thailand December 2013: Jake Gyllenhaal

ELLE MEN Thailand December 2013 Cover

นิตยสารน้องใหม่จากเครือ Post Media วางแผงเล่มแรกเมื่อเดือนพฤษจิกายน ฉบับที่สองหน้าปกเดือนธันวาคมขึ้นปกโดยดาราหนุ่มสุดหล่อ Jake Gyllenhaal อย่ามาถามว่า Jake 
ไหน Jake พระเอก Brokeback Mountain ไง อ๋อกันเป็นแถวละซิ 

นิตยสารจัดงานเปิดตัวไปแล้วอย่างอลังการเมื่อวันที่ 11 พฤษจิกายน 2556 
ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนทัล Dress Code: Black Tie

หลังจากทำการสำรวจและอ่านอย่างเพลิดเพลินกับเล่มแรกที่วางออกขาย ตัวหนังสือสวยงามเน้นการสื่อสารด้วยภาพ รูปเล่มสวยงาม เนื้อหาแน่นและน่าสนใจ มีส่วนของตัวเลขและกราฟฟิกที่ดูสนุกน่าติดตาม หนังสือแมน สำหรับผู้ชายแมนๆ ไม่มีแอ๊บ

04 December 2013

ชีวิตเด็กแบรนด์เนม ตอน ออร่า 2 (Aura 2)

ตอนที่ 2

แน่นอนว่า บ.ก ไม่ได้ลาออกตามที่คิดไว้ ในทางกลับกัน บ.ก ยืนหยัดที่จะสู้กับปัญหา
"มึงนะซิออก" คิดในใจ
แต่ก็ไม่วายบ่นให้รุ่นพี่ในร้านฟังว่าถ้าเจอรุ่นพี่ออร่ากับหัวหน้าแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกันอาจจะต้องขอลา เพราะอยู่แล้วเครียดเกิน ไม่มีใครอยากพูดอยากสุงสิงกับออร่า พนักงานที่เหลือในร้าน 3 คนจับกลุ่มกัน เพราะรู้ว่าตายหมู่ดีกว่าตายเดี่ยวในสถานการณ์นี้ จะว่าไปหวนคิดก็อดนึกไม่ได้ว่าพวกเราใจร้ายกับออร่ามากเกินไปหรือป่าว ชีดูไม่มีพิษมีภัยดูเป็นกันเองแต่ทำไมถึงไม่มีใครรักนาง และแล้วเรื่องที่เราจะลาออกโดยการไม่ไปทำงานก็ไปเข้าหูฝ่ายบริหารที่ตามมาเล่นงานผู้จัดการร้านในที่สุด บางทีการหนีปัญหาไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด การยืดหยัดที่จะเรียนรู้และแก้ปัญหาต่างหากน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด หลังจากที่ออร่าทนอยู่กับพวกเราหลังจากที่ทางแบรนด์เปลี่ยนผู้จัดการร้านไปแล้ว 2 คน เป็นหนึ่งในตำแหน่งอาถรรพ์ของร้าน ไม่มีใครสามารถทำต่ำแหน่งนี้ได้นาน พวกเราแอบเม้าท์ว่าสงสัยเจ้าที่แรง และแล้วคราวของออร่าก็มาถึง ชีตัดสินใจลาออกเพื่อไปประกอบธุรกิจส่วนตัว วันที่ผู้จัดการร้านคนใหม่ประกาศข่าวน่ายินดีนี้ พวกเราแทบจะไปกินเลี้ยงโต๊ะจีนกันเลยทีเดียว
หากมองให้เป็นกลาง ชีแค่ทำงาน ทำหน้าที่ของหล่อนให้สมบูรณ์ มันไม่ใช่เรื่องผิด แต่การจะอยู่ในสังคมนี้มันต้องมีอะไรที่มากกว่านั้น มิตรภาพและความจริงใจ การยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือและเป็นส่วนหนึ่งของทีม สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่ออร่าไม่มี และมันไม่สามารถสอนกันได้ วันสุดท้ายที่ชีทำงานมีการเลี้ยงส่ง บรรยายกาศดูเป็นกันเอ้งกันเอง สนุกสนาน อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ก่อนที่พวกเราจะกล่าวคำลากับออร่า แน่นอนทุกออฟฟิต ทุกร้านรวง จะต้องมีคนแบบออร่าอยู่ ประหนึ่งดังต้องมีตุ๊ดในทุกห้องเรียน หากใครเคยเจอสถานการณ์แบบนี้ หรือกำลังจะเริ่มต้นชีวิตการทำงานแล้วได้มีโอกาศอ่านโพสต์นี้ขอให้คุณเตรียมใจที่จะรับมือ เพราะใครจะไปรู้ ไม่แน่คุณอาจจะได้ทำงานกับออร่าก็ได้

ป.ล หลังจากนั้นไม่นานผู้จัดการร้านมากระซิบว่าออร่าขอเข้ามาคุย เพราะชีอยากจะกลับมาทำงานต่อ แต่บริษัทได้รับพนักงานใหม่แล้วจึงไม่ได้รับออร่ากลับเข้าทำงาน โล่งอก!

Lady Gaga Sublimation T-Shirt

เสื้อทีเชิ๊ตสกรีนลายปกอัลบั้ม ARTPOP ของ Lady Gaga ที่ร่วมงานกับศิลปินชื่อดัง Jeff Koons มีทั้งหมด 5 แบบให้เลือก อยากได้ตัวนี้ที่สุด คราวที่แล้วตอนมาทัวร์ได้กล่องข้าวน้อยมาสะสม สามารถสั่งซื้อแบบ Pre-Order ได้ที่ http://bit.ly/1cMT2mn สนนราคา $35 คิดเป็นเงินไทยพันกว่าๆ



ชีวิตเด็กแบรนด์เนม ตอน ออร่า Aura

ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เป็นการเริ่มต้นชีวิตการทำงานในสายแฟชั่น นั้นคือ การเป็นพนักงานขายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังแบรนด์หนึ่ง ฟังดูสวยหรูและรวย แต่ในความเป็นจริงการทำงานทุกอย่างต้องใช้ความพยายามและความอดทน และการฝึกฝนเพื่อให้งานที่เราทำประสบผลสำเร็จ เช่นเดียวกันกับการขายของแบรนด์เนม ทำยังไงให้ของสวยๆราคาครึ่งแสนนี้ดูมีคุณค่าและทำให้ลูกค้าซื้อ บรรยาย 3 วันก็ไม่จบทั้งเรื่องทฤษฎีและปฎิบัติ ยังต้องอาศัยโชคช่วยรวมถึงเครื่องลางเป็นครั้งคราว งานหนักเท่าไหร่ไม่เคยสนใจเตรียมพร้อมทำเต็มที่ แต่ปัญหาหนักใจมากกว่าที่ต้องเผชิญคือเพื่อนร่วมงาน การมาทำงานแต่ละวันบรรยากาศจะครุกรุ่น แลดูเงียบงันถึงแม้ว่าในร้านจะเปิดเพลงอยู่ก็ตาม ขอใช้คำย่อแทนตัวเองว่า บ.ก (ย่อมาจาก บล็อกเกอร์) เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจเวลาอ่าน
ตอนนั้น บ.ก อายุพึ่งจะ 22 มีประสบการณ์การทำงานมาบ้างนิดหน่อย แต่ยังไม่เคยทำงานสายแฟชั่นมาก่อน ได้แต่อาศัยใจรักในแฟชั่นและการออกแบบ ผสมกับความพยายาม จนในที่สุดได้รับโอกาศจากผู้ใหญ่ให้เข้ามาทำงาน ไม่มีการฝากใช้เส้นใดๆทั้งนั้น กว่าจะผ่านมาได้ต้องสัมภาษณ์งานถึง 4 รอบจนเกือบถอดใจ ช่วงแรกของการเริ่มทำงานต้องมีการแทร์นฝึกอบรบมากมายเตรียมความพร้อม เป็นหนึ่งในช่วงที่สนุกที่สุดของงานก่อนที่ฝันร้ายจะมาเยือน 
ที่ร้านจะมีรุ่นพี่สองคน และรุ่นน้องอีกสองคนซึ่งรวม บ.ก ด้วย แต่ละวันทำอะไร? ทำความสะอาดร้าน จัดของ เช็คสินค้า และขายของ ส่งงานช่าง งานมากมายยิบย้อยจิปาทะ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือ ยอดขายแต่ละวัน ขายได้ก็ดีไป ขายไม่ได้โดนจ้าา เครียดมาก ประสบการ์เรายังไม่แก่กล้าเท่ารุ่นพี่ขายได้น้อยกว่าใครเพื่อน ยอมรับชะตากรรม แต่ละวันช่วงเช้าจะมีการประชุมและดูว่ามีใครบ้างที่ยอดขายติดลบ บ.ก โดนเกือบจะทุกวันจนชิน เรามีความรู้เรื่องแฟชั่นมีเซ้นส์ในสไตล์มากกว่าคนอื่น ภาษาเราก็ได้แต่ทำไมยอดขายเราแย่ เราพลาดตรงไหน ทุกวันกลับบ้านไปเช็ตกับเพื่อนต่างแดนสมัยที่ MSN ยังครองโลก เพื่อนได้แต่ให้กำลังใจทำงานต่อไป เครียดขั้นที่หนึ่งเรื่องยอดขาย เครียดขั้นกว่าคือเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ เธอเป็นสาวรุ่นวัย 30 ต้นๆที่ทำงานขายสินค้าแฟชั่นมาหลายปี มีประสบการณ์และมีลูกค้าเก่ามากมายแน่นอนเธอเป็นที่รักของผู้จัดการร้านและบริษัท และด้วยตำแหน่งซีเนียร์เธอจึงมีพาวเวอร์และออร่ารุนแรงครอบคลุมอยู่ในร้านตลอดเวลา ขอเรียกเธอว่า ออร่า เพื่อจะได้เข้าใจและเห็นภาพได้มากยิ่งขึ้น ออร่านั้นไม่กินเส้นอย่างแรงกับช่างซ่อมเสื้อผ้าที่สุดแสนจะใจดีและน่ารักประจำร้าน ด้วยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อนในอดีต ทั้งสองจะคุยกันแค่เฉพาะเรื่องงานเท่านั้น วันไหนทำงานกับออร่าสองคนความเครียดจะลงกระเพาะ ด้วยกลัวว่าชีจะแผลงฤิทธ์ใส่ แต่ด้วยความที่ บ.ก เจียมเนื้อเจียมตัวทำให้รอดพ้นเหตุการณ์ต่างๆมาได้หลายครั้งคราว แต่ครั้งที่ต้องจารึกไว้เกิดขึ้นในช่วงหนึ่งของการเปิดตัวห้างที่ร้านตั้งอยู่ จึงมีการเตรียมงานวุ่นวายภายในร้านเพื่อที่จะรับลูกค้า บ.ก กำลังรับลูกค้าที่หาซื้อเสื้อเชิ๊ตสีขาวอยู่ สีขาวอย่างเดียวกันมีโชว์ตั้ง 5-6 แบบ แถมลูกค้าก็หยิบดูเองอีก และวางคืนสลับที่กัน แน่นอนมันเป็นเรื่องเล็กน้อยธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ แต่สำหรับออร่ามันคือความผิดขั้นประหารชีวิต! ออร่าฟ้องผู้จัดการ และผู้จัดการเรียกพนักงานในร้านที่เหลือไปด่า ชนิดฟังแล้วเซ็ง ช่วงพักกินข้าว บ.ก คิด "กูจะลาออก"
โปรดติดตามตอนต่อไป
อ่านต่อ ตอนที่ 2

03 December 2013

อารัมภบท

It's  a  F A S H I O N World! 
"On the whole people that say 
the meaning things about our world"

ถ้อยแถลงคุ้นๆเหมือนเคยได้ยินนี้หมายความว่าอะไร? ฟังเหมือนเด็กเนิร์ดแก่เรียนโดนเพื่อนแกล้งแกมกีดกันออกจากกลุ่ม แต่จริงๆแล้วคือบทสัมภาษณ์ตอนเปิดเรื่องสารคดีของชาวเรา The September Issue

ทำไมบางคนบ้าแฟชั่นทำอย่างกับว่าแฟชั่นคือทุกสิ่งของชีวิต สำหรับบางคนอาจจะใช่ แต่คนทั่วไปแล้วแฟชั่นคือส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวัน มันไม่ได้มีสิ่งสลักสำคัญให้นึกถึงแต่อย่างใด แต่อย่าลืมว่าทุกวันที่คุณตื่นนอน เตรียมตัวจะไปทำงานคุณต้องแต่งตัว ใส่รองเท้า ถือกระเป๋า อะอะ หยุดก่อน นั้นไงแฟชั่นที่แฝงเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของคุณ คนส่วนใหญ่จะพูดเหมือนไม่สนใจในการแต่งตัวของตัวเอง คุณเคยได้ยินไหม Dress For Success แต่งตัวอย่างไรให้ประสบความสำเร็จกับสิ่งที่ทำในชีวิต โอ้ยฟังดูใหญ่โตทางการ อะไรนักหนา

 
Credit Photo: Anna Della Russo (VOGUE Japan), Karl Lagerfel & His Teddy Bear, 
Susie Bubble (Stylebubble), The lovely BryanBoy (BRYANBOY)

เจตนาในการเขียนบล็อกนี้เพื่อนสนองความต้องการของตัวเองเป็นหลัก แต่อยากแบ่งปันประสบการณ์และมุมมองสนุกๆเกี่ยวกับโลกของแฟชั่น ให้ทุกคนที่รักแฟชั่นหรือสนใจได้มีส่วนรวม เราเน้นอ่านสนุก อ่านขำแก้เครียด รูปแฟชั่นสวยๆ อะไรอินอะไรฮ๊อต เราจะนำมาเสนอเท่าที่เวลาและโอกาศเหลือจากการทำงานและความขี้เกียจจะเอื้ออำนวยได้ และเติมเต็มความฝันในวัยเด็กของตัวเอง 
แฟชั่นเป็นเรื่องสนุกเพียงแต่ว่าเราจะรู้จักใช้มันยังไงเท่านั้นเอง เคยคิดมาก่อนว่าอยากเขียนแฟชั่นบล็อกช่วง 3-4 ปีที่ การบล็อกกำลังอินและดัง แต่ด้วยภาระกิจปากท้องทำให้ล้มเลิกความคิดเพราะด้วยตารางการทำงานที่แน่นและหนักหน่วง แต่หวังเล็กๆเอาไว้ว่าหากมีโอกาศจะขอใช้ความสามารถที่เราพอจะมีได้เขียนและบรรยายอย่างสนุกๆให้กับคนทั่วไปได้อ่านเพื่อความบันเทิงก็ยังดี ตัวบล็อกเกอร์เองทำงานสายแฟชั่นมา 10 ปี ไม่ได้เป็นนักข่าวที่ไหน แต่ด้วยใจรักในแฟชั่นและงานเขียนและบ้าแม็กกาซีนแฟชั่นแบบหัวปักหัวปำ จึงไม่เคยคิดที่จะล้มเลิกภารกิจแฟชั่นนี้ บล็อกเกอร์จะขอใช้พื้นที่ฟรีนี้ในการนำเสนอแฟชั่นที่ดีที่สุดใน Moment นั้นตามความเหมาะสม เพื่อนำเสนอโลกแฟชั่นในมุมมองใหม่ๆที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและมีส่วมร่วมกับมันได้ นอกจากนั้นยังจะมีในส่วน 
Life Style และ Travel รวมอยู่ด้วย ใครจะช๊อบอย่างเดียว ต้องกินต้องเที่ยวด้วยนิ 
Welcome to my Fashion World! ขอให้เพื่อนๆช่วยติดตามบล็อกนี้ รวมถึง facebook และ instargram ที่กำลังจะทำในอนาคต เรามาอ่านข่าวแฟชั่นและขำไปด้วยกัน
โปรดติดตามตอนต่อไป!

Thank you VOGUE, BryanBoy, TasteofNowhere for the inspiration!